ในเรื่องของชีวิตคู่ บางคนเปรียบเทียบไว้ว่าเหมือนลิ้นกับฟันที่ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่มันจะยังคงเป็นเรื่องธรรมดาอยู่ไหม ถ้าการกระทบกระทั่งนั้นมันกลายเป็นความรุนแรง ความรุนแรงในครอบครัว คือ การทำร้าย ในเรื่องของ จิตใจ ร่างกาย เสรีภาพ หรือแม้แต่ การล่วงละเมิดทางเพศโดยไม่ได้รับความยินยอม ความรุนแรงในครอบครัว เกิดขึ้นได้ ทั้งสามีทำภรรยา ภรรยาทำสามี บุตรทำร้ายญาติผู้ใหญ่ แต่ในบทความนี้จะเน้นไปที่เรื่อง การทำร้ายผู้หญิง โดยอารมณ์หึงหวงของผู้ชาย
อารมณ์หึงหวงในทางจิตวิทยา เกิดจาก การผสมของอารมณ์ อิจฉา เสียใจ โกรธ กลัว แน่นอนว่าเป็นอารมณ์ในด้านลบ เกิดจาก 2 ปัจจัยด้วยกัน
1.รู้ว่ามีมือที่ 3 เข้ามาในความสัมพันธ์
2.เกิดจากการหวาดระแวงไปเองทั้งๆที่ความจริงแล้วไม่มีอะไรในกอไผ่
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกพบว่า หญิง 1 ใน 3 คนจากทุกประเทศทั่วโลก เคยได้รับประสบการณ์ถูกสามีทุบตีทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ พิการ หรือเสียชีวิต แม้แต่ในเมืองไทยทุกวันนี้ข่าวทางโซเชี่ยล ก็ต่างลงข่าวถึงการถูกทำร้ายร่างกายของผู้หญิงด้วยความหึงหวง ซึ่งมาจากประสบการณ์จริงของผู้ที่เล่นโซเชี่ยลเอามาเผยแพร่นั่นเอง
อาการหึงหวงของผู้ชาย และ ผู้หญิงแตกต่างกัน
- ฝ่ายชาย จะเป็นทุกข์มากกว่าถ้ารู้ว่าฝ่ายหญิงไปนอกกายกับชายอื่น
- ฝ่ายหญิง จะเป็นทุกข์มากกว่าถ้ารู้ว่าฝ่ายชายไปปันใจให้หญิงอื่น
การแสดงออก
- คนมองโลกในแง่ดี มีการพูดจาไม่ดีใส่กัน ไประบายอารมณ์กับสิ่งของ
- คนมองโลกในแง่ร้าย ทำร้ายร่างกาย อาจเลยเถิดไปถึงการฆาตกรรม
เหตุใดบางคนถึงมีอาการหึงหวงรุนแรง
- พึ่งพาทุกสิ่งทุกอย่างไว้ที่คนๆเดียว
- คิดว่าตัวเองไม่มีตัวเลือกอื่น
สร้างภูมิคุ้มกันป้องกันการหึงหวงที่มากเกินไป
- ทำตัวให้ชัดเจนในความสัมพันธ์
- คิดในแง่บวก พยายามอย่าคิดไปเอง
- ไม่หูเบาเชื่อคำพูดคนอื่นง่ายๆ ถ้าสงสัยให้ถามเจ้าตัวโดยทันที
- เห็นคุณค่าในตนเอง
แท้จริงแล้ว อารมณ์หึงหวงเป็นเรื่องธรรมชาติ ที่มนุษย์ทุกคนพึงมี แต่มันเป็นการไม่ถูกต้องทั้งในแง่ของศีลธรรม และ กฎหมาย ในการทำร้ายผู้อื่น เราทุกคนเกิดมาล้วนต้องการความรักความเข้าใจกันทั้งนั้น แต่ ก่อนจะรักคนอื่นเราต้องรัก และเห็นคุณค่าในตัวเองก่อน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิต ส่วนผู้หญิงที่ถูกทำร้าย ก็ควรรู้ตัวว่า อารมณ์หึงรุนแรงเกินไปนั้น ไม่ใช่ความรักอันแท้จริง เพราะ ความรัก ไม่ใช่การทำร้ายผู้อื่นให้บาดเจ็บ แต่เป็นการมอบสิ่งดีๆต่างหาก